บริจาค

เห็นว่า..บล็อกนี้ดี มีประโยชน์... โปรดสนับสนุนผู้ทำบล็อกได้ที่ พร้อมเพย์ 083-4616989
หรือบัญชี 002-1-70462-8 กสิกรไทย สาขาบางลำภู

Brain-to-brain telepathy



ผมไปอ่านพบข่าวที่นี่สนใจ ที่ควรจะนำมาพูดคุยกัน ข่าวนั้นชื่อ “นี่มัน X-men? นักวิทย์เจ๋ง! ทดลองสำเร็จ สื่อสารความคิด ทางสมองระยะไกล -โทรจิต ดิจิตอล

เนื้อหาข่าวก็นำเสนอใน youtube อย่างที่ผมเสนอไปข้างบนแล้ว  สำหรับคนที่ไม่ชอบฟังภาษาอังกฤษ ก็อ่านข่าวด้านล่าง

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ทีมนักวิจัยของสหรัฐประสบความสำเร็จในการทดลองการสื่อสารทางไกลทางสมอง ผ่านคลื่นที่เชื่อมโยงกับอินเตอรเนท

โดยสามารถสื่อสารจากทวีปหนึ่งไปอีกทวีปหนึ่ง

รายงานระบุว่า ในการทดลองดังกล่าว นักวิทยาศาสตร์มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดของสหรัฐ ประสบความสำเร็จสามารถส่ง "ข้อความทางความคิด" จากบุคคลหนึ่งซึ่งอยู่ในประเทศฝรั่งเศส ไปยังอีกบุคคลที่อยู่ในประเทศอินเดีย ซึ่งอยู่ห่างไกลกันกว่าพันไมล์

ด้วยการใช้อุปกรณ์สื่อสารไร้สายครอบศีรษะ ซึ่งจะทำหน้าที่เป็นตัวกลางในการแปลงค่าการอ่านความคิดทางสมอง

โดยเป็นการทำงานระหว่างอุปกรณ์สื่อสารสองตัว ซึ่งตัวหนึ่งเป็นตัวส่งสัญญาณความคิด และอีกตัวเป็นตัวรับสัญญาณความคิด ผ่านการส่งคลื่นทางอินเตอร์เนท

โดยผู้ทดลองจะนึกคำง่ายๆ  ก่อนที่ข้อมูลสื่อสารดังกล่าว หรือความคิดดังกล่าว  ไปยังอีกบุคคลหนึ่งที่ใช้อุปกรณ์ตัวสัญญาณความคิด

โดยคอมพิวเตอร์จะทำหน้าที่แปลงคำพูดดังกล่าวให้เป็นโค้ดดิจิตอลแบบคู่ขนาน ก่อนที่อุปกรณ์ดังกล่าวจะแสดงภาพจำลองข้อมูลทางความคิดจากต้นทาง เป็นรูปของประกายแสง

แต่จะไม่สามารถได้ยิน หรือเห็นความคิดดังกล่าวได้เหมือนการสื่อสารระยะใกล้ปกติ

ด้านกลุ่มนักค้นคว้าเผยว่า กลุ่มต้องการจะพิสูจน์ว่า การสื่อสารโดยตรงระหว่างบุคคลด้วยการอ่านกิจกรรมทางสมองของอีกฝ่าย เป็นสิ่งที่สามารถเป็นไปได้หรือไม่

โดยเฉพาะการสื่อสารผ่านระยะทางไกลๆ และใช้อินเตอร์เนทเป็นเหมือนสะพานเชื่อม และว่า การทดลองนี้เป็นรูปแบบการใช้เทคโนโลยีเพื่อสื่อสารทางโทรจิต ที่ไม่ได้หลอกลวงเหมือนการใช้มายากล

โดยกลุ่มฯได้ใช้เทคโนโลยีสร้าง "ปฎิสัมพันธ์เชิงแม่เหล็กไฟฟ้า" กับสมองคนเรา และว่า ที่ผ่านมา ได้มีนักวิทยาศาสตร์ได้พยายามจะส่งข้อความทางความคิดของบุคคลหนึ่งไปยังอีกบุคคลหนึ่งมาเป็นเวลานับทศวรรษ ซึ่งสามารถพิสูจน์ได้จากวารสารการแพทย์ที่ผ่านมา

ขณะที่นักวิจารณ์กล่าวว่า การทดลองนี้ทำให้โอกาสที่มนุษย์จะสามารถสื่อสารทางโทรจิตได้คล้ายภาพยนตร์ไซไฟดังอย่าง X-Men หรือตัวละครอย่าง "ดร.ชารลส์ ซาร์เวียร์" มีความจริงมากขึ้น


สำหรับเรื่องทำนองนี้ คนที่ศาสนาพุทธ ศาสนาพราหมณ์-ฮินดูทำได้มานานแล้ว ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร  และทำได้ดีกว่าการทดลองที่เป็นข่าวเสียอีก

ขอยกตัวอย่างหนังสือทางพุทธคือ หนังสือทิพย์อำนาจของพระอริยคุณาธาร (ปุสฺโส เส็ง ป.๖) มาเป็นตัวอย่าง  ใครที่ต้องการอ่านหนังสือเล่มนี้ ก็หาดาวน์โหลดเอาได้


ในฐานะที่เป็นวิทยากรสอนวิชาธรรมกาย เรื่องดังกล่าว วิชาธรรมกายทำได้ดีกว่าไม่รู้ว่าจะกี่เท่าต่อกี่เท่า

เนื่องจากวิชาธรรมกาย ทำได้มากกว่านั้น  ประการสำคัญเลยก็คือ เราสามารถติดต่อคนที่ตายไปแล้วได้  ไม่ว่าจะไปอยู่ที่ไหนก็ตามไปคุยกันได้

นักวิทยาศาสตร์ติดต่อกับคนได้เพียงบางคำเท่านั้น ซึ่งต่อไปข้างหน้า นักวิทยาศาสตร์อาจจะทำได้มากกว่านี้

แต่สิ่งที่นักวิทยาศาสตร์ทำไม่ได้เลยก็คือ ติดต่อกับคนที่ตายไปแล้ว

ขออธิบายวิธีการติดต่อกับคนที่อยู่ไกลๆ กันก่อน แล้วถึงจะมาติดต่อกับคนที่ตายไปแล้ว

การติดต่อกับคนที่อยู่ไกลๆ ในทางปกติบอกกันก่อนว่า พวกผมก็ใช้โทรศัพท์ ไลน์ อีเมล์กันนี่แหละ เพราะ ไม่รู้จะทำอย่างที่จะอธิบายไปทำไม

ก็ในเมื่อยังมีวิธีง่ายๆ อยู่ก็ต้องใช้วิธีนั้น

การติดต่อกับคนที่อยู่ไกลๆ ในทางวิชาธรรมกาย  เราจะต้อง “จำ” คนๆ นั้นให้ได้เสียก่อนว่า รูปร่างหน้าตาเขาเป็นอย่างไร

เราต้องทำวิชา 18 กาย ไป-กลับอย่างน้อย 7 เที่ยว เพื่อให้ดวงธรรมใน กายใส ต่อไปเราก็นึกถึงคนที่เราต้องการจะสื่อสาร 

เอาใจของเราเขาตามฐานคือ 1- ปากช่องจมูก หญิงซ้ายชาวขวา 2- เพลาตา หญิงซ้ายชาวขวา 3-จอมประสาท กลางกะโหลกศีรษะ แล้วก็ไปฐานที่ 7 เหนือระดับสะดือ 2 นิ้วมือเลย

เราก็จะเห็น “ดวงธรรม” ของเรา ซึ่งประกอบด้วย “เห็น-จำ-คิด-รู้” ต่อไปเราก็เอา ดวงธรรมของเราซ้อนกับของเขาให้เห็นดวงเดียวกัน

เมื่อซ้อนกันสนิทดีแล้ว จะคุยอะไร จะพูดอะไร จะถามอะไร ก็ทำได้เลย เหมือนนั่งคุยกันเลย

สำหรับการไปซักถามคนที่ตายไปแล้ว  มีกรรมวิธีที่ยุ่งยากกว่านิดหน่อย ดังนี้

คือ เมื่อเดินวิชา 18 กาย ไป-กลับอย่างน้อย 7 เที่ยวแล้ว  เราต้องเอากายธรรมพระอรหัตละเอียดของเรา ไปที่ตีนเขาพระสุเมรุก่อน

ไม่ต้องไปสงสัยว่า เขาพระสุเมรุอยู่ตรงไหนในแผนที่จักรวาล เพราะ แผนที่ยังทำไม่ถึง  กายธรรมพระอรหัตละเอียดท่านรู้ของท่านเอง

เมื่อไปถึงแล้ว ก็เอ่ยชื่อเรียกคนที่ตายไปแล้ว  ไม่ว่าเขาจะอยู่ที่ไหนเขาก็จะมา  ต่อไปก็เอาดวงธรรมซ้อนกัน  แล้วก็คุย


จะเห็นว่า เรื่องทำนองนี้ ศาสนาพุทธเก่งกว่า ดีกว่าวิทยาศาสตร์อย่างที่ไม่ต้องเปรียบเทียบกัน และไม่สามารถทำตามได้อย่างแน่นอน




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น