บริจาค

เห็นว่า..บล็อกนี้ดี มีประโยชน์... โปรดสนับสนุนผู้ทำบล็อกได้ที่ พร้อมเพย์ 083-4616989
หรือบัญชี 002-1-70462-8 กสิกรไทย สาขาบางลำภู

หินสี-วิทย์-พุทธ




บทความนี้ จะแสดงให้เห็นถึงวาทกรรมที่เกี่ยวกับองค์ความรู้ของวิทยาศาสตร์กับพุทธศาสน์ โดยเฉพาะเรื่องที่เกี่ยวกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์

เนื้อหาที่นำมาวิเคราะห์ก็เป็นวิดิโอใน YouTube เรื่อง “หินสี มีพลังจริงหรือ ??” แขกรับเชิญคือ รศ.ดร.จักรพันธ์ สุทธิรัตน์ ผู้เชี่ยวชาญเรื่องหินของประเทศไทย

วิดิโออีกเรื่องหนึ่งที่เอามาประกอบก็คือ เรื่อง “มหัศจรรย์พลังหิน โดย อ.จุฑามาศ ณ สงขลา”  ใครสนใจอยากดูเต็มๆ ก็ไปดูกันได้ ตามลิงก์ที่ทำไว้แล้ว

เรื่องหินสีนี่ ผมเขียนมาแล้ว 3 บทความ สนใจก็ไปอ่านได้

หินมงคลทำให้รวยได้หรือไม่   http://sacredlthings.blogspot.com/2015/02/blog-post.html

หินบำบัดโรคได้จริงหรือไม่   http://sacredlthings.blogspot.com/2014/05/blog-post_16.html

หินบำบัดโรคจริงหรือไม่ 2  http://sacredlthings.blogspot.com/2014/05/2.html

ขอเกริ่นนำด้วยความรู้เรื่องเกี่ยวกับจักรพรรดิกันก่อน  เรื่องเกี่ยวกับจักรพรรดินั้น ผมขอยืนยันไปเลยว่า กลุ่มที่มีความรู้เรื่องจักรพรรดิดีที่สุด ถูกต้องที่สุดก็คือ กลุ่มลูกศิษย์ของคุณลุงการุณย์ บุญมานุช

ถ้าจะฟันธงแบบฉับๆ ๆ ก็คือ กลุ่มของมูลนิธิศึกษาการุณย์ นี่แหละ  ตัวผมเอง ซึ่งเป็นเลขานุการของมูลนิธิศึกษาการุณย์ ก็เคยเป็น “จักรพรรดิ” มาก่อน

แล้วมาเกิดเป็นมนุษย์ เพื่อมาช่วยคุณลุงการุณย์ บุญมานุช ทำงาน เพราะ เป็นลูกศิษย์กันมาหลายภพหลายชาติแล้ว

ขอยกตัวอย่างการให้ความหมายของ “พระเจ้าจักรพรรดิ” ของวิกิพีเดียเพื่อเป็นแนวทางในการนำมาวิพากษ์วิจารณ์

พระเจ้าจักรพรรดิ (บาลี: จกฺกวตฺติ) คือ จักรพรรดิผู้ปกครองทวีปทั้ง 4 ในความเชื่อของพระพุทธศาสนา เป็นผู้รักษาศีล เป็นธรรมราชา ปกครองด้วยทศพิธราชธรรม มีพระโอรสนับพัน ไม่เบียดเบียนผู้อื่น ไม่ปรารถนาสงคราม ไม่ประสงค์เครื่องบรรณาการ

พระเจ้าจักรพรรดิมีแต่ผู้เคารพนับถือ พระเจ้าจักรพรรดิเป็นผู้มีบุญญาธิการมาก พระเจ้าจักรพรรดิมีลักษณะของมหาบุรุษเช่นเดียวกับพระพุทธเจ้า แต่ทรงเลือกปกครองแผ่นดิน

ยามใดที่มีพระพุทธศาสนา พระเจ้าจักรพรรดิก็ทรงบำรุงอุปัฏฐากพระพุทธเจ้า พระอรหันตสาวก ช่วยเผยแพร่พระธรรม แต่ยามใดที่ไม่มีพระพุทธศาสนา พระองค์ก็ทรงรวบรวมผืนแผ่นดิน ผู้คนให้เป็นปึกแผ่น ทรงปกครองโดยธรรม สั่งสอนประชาชนทั้งมวล

พระเจ้าจักรพรรดิทรงขยันในการสร้างบารมีมาก ถึงแม้จะเป็นพระมหาจักรพรรดิก็ยังทรงสร้างพระบารมีไม่หยุดหย่อน

ข้อความข้างต้นยังไม่ถูกต้องนัก  ผู้ที่จะค้นพบอริยสัจจ์ 4 แล้วนำมาเผยแพร่ได้นั้น มี 2 แบบประเภทคือ พระพุทธเจ้ากับจักรพรรดิ

แบบพระพุทธเจ้า เรารู้จักดี เพราะ เราอยู่ในยุคนี้พอดี  สำหรับแบบจักรพรรดินั้น จักรพรรดิจะค้นพบอริสัจจ์ แต่ท่านไม่บวช เพราะ สร้างบารมีมาแบบนั้น แล้วก็เผยแพร่ศาสนาไปแบบนั้น

ที่กล่าวไปนั้น เป็นจักรพรรดิภาคมนุษย์ คือ เกิดมามีกายเนื้อ

สำหรับจักรพรรดิภาคกายละเอียดนั้น มีมากมายมหาศาล  ผู้ที่ปฏิบัติธรรมจะมีจักรพรรดิคู่บารมีเสมอ   พระพุทธเจ้าก็มี พระอรหันต์ก็มี

จักรพรรดิกายละเอียดนี่แหละคือ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ในศาสนาพุทธ  จักรพรรดินี้ มีมากมายมหาศาล แบบไม่ต้องนับ 

ที่สร้างบารมีครบแล้ว ก็ไปอยู่ในอายตนะนิพพานเช่นเดียวกับพระอรหันต์ แต่อยู่อีกส่วนหนึ่ง ไม่ปนกันกับพระอรหันต์ 

ที่ยังสร้างบารมีไม่ครบ  ก็ต้องมาสร้างบารมีต่อ ท่านก็จะไปอยู่ตามรัตนะชาติ หรือหินทั้งหลาย เมื่อท่านไปอยู่ ณ ที่ใด ท่านจะทำให้ “เรือน” เหล่านั้นใสขึ้น

กลับมาเข้าเรื่อง  รายการ “หินสี มีพลังจริงหรือ ??” พิธีกรผู้หญิง 2 คนนั้น ต้องการถาม รศ.ดร.จักรพันธ์ สุทธิรัตน์ ว่าหินสีมีพลังจริงหรือไม่ 

เป็นพลังแบบที่  อ.จุฑามาศ ณ สงขลา กล่าวถึง คือ รักษาโรคได้หรือไม่  ทำให้รวยได้หรือไม่ ทำให้สวยขึ้นได้หรือไม่ ฯลฯ

ปรากฏว่า รศ.ดร.จักรพันธ์ สุทธิรัตน์ ตอบไปแบบนักวิทยาศาสตร์เป๊ะ  คือ หินมันมีพลัง แล้วก็ปล่อยพลังไปเรื่อยๆ นับเป็นล้านปี

ผมดูรายการแล้ว  อยากจะเอารองเท้าขว้างจอเหลือเกิน   มันจัดรายการกันไปได้อย่างไร แบบไปไหนมา สามวาสองศอก

พิธีกรถามไปแบบหนึ่ง ผู้มาร่วมรายการตอบไปอีกแบบหนึ่ง  มันจัดรายการกับจนจบเวลาไปได้

รายการนี้ พิธีกรควรจะแย้งว่า “ไม่ได้ถามถึงพลังแบบวิทยาศาสตร์”  แต่ถามถึงพลังแบบสิ่งศักดิ์สิทธิ์  รศ.ดร.จักรพันธ์ สุทธิรัตน์จะตอบไปอย่างไรก็ว่ากันไป

นี่มัน ถามอย่าง ตอบอย่างกันจนจบรายการ 

เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า “นักวิทยาศาสตร์ไม่เชื่อเรื่องสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ไม่เชื่อแล้วเขาไม่ยอมเอ่ยถึง ทำเหมือนว่า เรื่องดังกล่าวไม่มีในโลก

ดังนั้น เรื่องแบบนี้ ก็ไม่ควรไปถามนักวิทยาศาสตร์ ต้องมาถามพวกปฏิบัติธรรม ถึงจะรู้เรื่องได้ดีกว่า

และก็อย่าไปถามพวกขายหิน  ก็คนมันจะขายของ มันก็ว่าของมันดีทั้งนั้น






ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น